พระขุนแผนเคลือบกรุกลางทุ่งมะขามหย่อง อยุธยา
โดย เจตนรินทร์ บาคะรม
ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 11 ส.ค. 2555.
เปิดตำนาน พระขุนแผนเคลือบกรุกลางทุ่งมะขามหย่อง อยุธยา
ความเป็นมา ของทุ่งมะขามหย่อง ในเชิงประวัติศาสตร์ มีความเชื่อกันว่า ด้านทิศตะวันตกของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในสมัยก่อนมีข้าศึกยกทัพมาเข้าตีกรุงศรีอยุธยา และมีการตั้งค่ายบริเวณทุ่งมะขามหย่อง ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า เมื่อสมเด็จพระมหาจักพรรดิครองราชย์ได้ 7 เดือนพระเจ้าหงสาวดีตะเบงชะเวตี้ ประเทศพม่าได้ยกทัพมาทางด่านเจดีย์สามองค์เมืองกาญจนบุรี และเข้ามาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันเสาร์ เดือน 4 พ.ศ. 2091 และตั้งทัพอยู่ที่ทุ่งมะขามหย่อง
วันอาทิตย์ เดือน 4 พ.ศ. 2091 สมเด็จพระมหาจักรพรรดิพร้อมด้วยสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ซึ่งแต่งพระองค์อย่างมหาอุปราชทรงช้างพระที่นั่งยกกองทัพออกไปยังทุ่งภูเขาทองซึ่งติดกับทุ่งมะขามหย่องและประลองกำลังระหว่างพระเจ้าแปร และพระมหาจักรพรรดิ
ต่อมาช้างต้นพลายแก้วซึ่งเป็นช้างของพระมหาจักรพรรดิพุ่งถลันไป และรั้งเอาไว้ไม่อยู่ พระเจ้าแปรเห็นได้ทีก็เบนช้างขับไล่ติดตามมา สมเด็จพระศรีสุริโยทัยจึงขับพระคชาธารพลายทรงสุริยกษัตริย์ ( ช้างของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย)เข้าปะทะไว้ ช้างของพระเจ้าแปรอยู่ล่างใช้งาเสยช้างของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย แหงนหงายและเสียที่ พระเจ้าแปรจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าวต้องพระอังสาขาดกระทั้งราวพระถันสิ้นพระชนม์บนคอช้างซึ่งเป็นประวัติศาสตร์กษัตริย์วีรสตรีไทยและเมื่อปีพ.ศ. 2538 สมเด็จพระบรมราชชินีนาถสิริกิติ์ ได้ทรงสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ให้เป็นที่ระลึกแก่ประชาชนชาวไทยได้ถวายพระเกียรติ ณ ทุ่งภูเขาทอง
ตำนานและที่มา ของพระขุนแผนเคลือบ พระขุนแผนเคลือบเป็นพระเนื้อผงขาว มีส่วนผสมของปูนและดินขาวและผ่านกรรมวิธีใช้น้ำยาเคลือบด้านหน้าขององค์พระ คล้ายกับการเคลือบของไหโบราณหรือกระเบื้องหลังคาโบสถ์ ในสมันโบราณ ประวัติการสร้างพระขุนแผน สร้างประมาณ พ.ศ. 2134 ซึ่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราช แม่ทัพใหญ่ของพม่า ทรงได้รับชัยชนะพระองค์เสด็จกลับมากรุงศรีอยุธยาและได้สร้างพระขุนแผนเคลือบ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะที่ วัดป่าแก้ว ( ปัจจุบันชื่อวัดใหญ่ชัยมงคล) ประธานในพิธีสงฆ์คือสมเด็จพระนพรัตน์ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระขุนแผนเคลือบเป็นพระปางมารวิชัย ประทับอยู่ ในชุ้มเรือนแก้วองค์พระจะมีการเคลือบด้านหน้าทุกองค์ ด้านหลังไม่เคลือบแต่จะมีลายมือปรากฏอยู่ทุกองค์ พระขุนแผนเคลือบ กำเนิดแห่งแรกที่กรุวัดใหญ่ชัยมงคล และต่อมาค้นพบที่กรุวัดบ้านกร่าง จังหวัดสุพรรณบุรี และต่อมาค้นพบตามลำดับดังนี้ ครั้งที่สอง พบเมื่อปี2506 มีผู้ค้นพบที่กรุวัดเชิงท่า อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ครั้งที่สาม พบเมื่อปี 2528 พบที่ตำบลบางใหญ่จังหวัดนนทบุรีครั้งที่สี่ พบที่วัดบ้านกลิ้ง อำเภอบางประอิน อยุธยาครั้งล่าสุด ได้ค้นพบที่กรุกลางทุ่งมะขามหย่อง อยุธยาใกล้กับทุ่งภูเขาทอง
พระขุนแผนเคลือบกรุงกลางทุ่งมะขามหย่องอยุธยา ได้ค้นพบเมื่อประมาณ 10 และผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า เป็นพระพิมพ์ที่อยู่ในยุคเดียวกับ กรุงวัดใหญ่ชัยมงคล กรุงวัดเชิงท่า นนทบุรี กรุงบางใหญ่นนทบุรี หรือแม้แต่ วัดบ้านกลิ้งอำเภอบางประอิน อยุธยา และผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบทางด้านพุทธศิลปะ และเนื้อผง ต่างๆมีลักษณะเดียวกับพระขุนแผนเคลือบในกรุดังที่กล่าวมาแต่ลักษณะของพระขุนแผนเคลือบของกรุ กลางทุ่งมะขามหย่อง เนื้อออกจะมีสีค่อนข้างดำแต่ดำไม่มากนัก สาเหตุเนื่องมาจากบริเวณทุ่งภูเขาทองและทุ่งมะขามหย่องในฤดูน้ำหลาก จะมีน้ำท่วมทุกปี จึงเป็นสาเหตุให้พระขุนแผนของกรุกลางทุ่งมะขามหย่องจะมีผิวคล้ำไปบางเล็กน้อยเนื่องจากกรุถูกน้ำท่วม ส่วนด้านพุทธคุณ ซึ่งมีพระพุทธคุณสูงส่งเหมือนพระกรุ เช่นวัดใหญ่ชัยมงคลหรือกรุบ้านกร่าง ผู้ที่บูชาพระขุนแผนกรุทุ่งมะขามหย่อง จะมีเสน่ห์ เมตตามหานิยมแคล้วคลาดปลอดภัยอันตรายใด ๆ ทั้งปวงเป็นพระกรุงขุนแผนเคลือบอีกองค์หนึ่งที่ผู้นิยมพระเครื่องต้องนำติดตัวเพื่อความเป็นสิริมงคลทั้งปวง
แสดงภาพพระขุนแผนเคลือบและลักษณะของน้ำเคลือบ
ชื่อพระขุนแผน ทั้งของเมืองสุพรรณบุรีหรือเมืองไหนๆ ก็ตามเป็นการเรียกชื่อพระ ของคนในสมัยหลังเพราะคนโบราณสร้างพระพิมพ์ ไม่เคยมีการตั้งชื่อพระเอาไว้ มีแต่คนรุ่นหลังเท่านั้นเป็นผู้ตั้งชื่อให้ทั้งสิ้น พระกรุวัดบ้านกร่าง ก็เช่นเดียวกันเมื่อแตกกรุออกมาใหม่ๆ ก็ไม่มีชื่อ คนยุคนั้นเรียกว่าพระกรุบ้านกร่าง ถ้าเป็นพระองค์เดียวเรียกว่าพระบ้านกร่างเดี่ยว ถ้าเป็นพระสององค์ติดคู่กัน เรียกว่าพระบ้านกร่างคู่ ต่อมามีการตั้งชื่อให้ว่า พระพลายเดี่ยวบ้างพระพลายคู่บ้าง ต่อมาสันนิฐานว่าคนตั้งชื่อเพื่อให้สอดคล้องกับตัวละครในวรรณคดีไทยเรื่องขุนช้างขุนแผน พระบ้านกร่างจึงเลือนหายไป หรืออีกนัยหนึ่ง ชื่อของพระขุนแผน อาจได้มาจาการที่คนที่บูชากราบไหว้อาราธนาพระติดตัวไปไว้ป้องกันอุบัติภัยต่างๆ แล้วประจักษ์ในความศักดิ์สิทธิ ในอำนาจพุทธคุณ ที่มีคุณวิเศษเหมือนขุนแผน ในวรรณคดีไทย โดยเฉพาะด้านเมตตา มหานิยม ด้วยเหตุอย่างนี้จึงเรียกติดกันมาว่าพระพิมพ์ ขุนแผนสืบกันมาจนปัจจุบันนี้
http://www.baanpra.com/shop.php?m_id=672
ประกาศอื่นๆในหมวดหมู่เดียวกัน 20 รายการ (แสดงทั้งหมด)
หน้า แสดง - จากทั้งหมด 5723 ประกาศ
|
|
|
1500 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
65,000 บาท |
|
|
|
4,500 |
|
|
|
ไม่ระบุราคา |
|
|
|
14,900 |
|
|
|
ไม่ระบุราคา |
|
|
|
5x,xxx |
|
|
|
พิเศษโทรสอบถาม |
|
|
|
50,000 บาท |
|
|
|
15,000,000 |
|
|
|
17,000 บาท |
|
|
|
ไม่ระบุราคา |
|
|
|
111,111 |
|
|
|
โทรสอบถาม |
|
|
|
โทรถาม |
|
|
|
1,000 บาท |
|
|
|
15,900 |
|
|
|
ไม่ระบุราคา |